ด่วนล่าสุด! รมว.ศธ. ลงนามขับเคลื่อนแผน 7 ปีพัฒนาปฐมวัย

-
กลุ่มไลน์ข่าวการศึกษา
กลุ่มไลน์ข่าวการศึกษา
วันนี้ ครูประถม.คอม ข่าวการศึกษา ได้รับรายงานด่วนว่า รมว.ศธ. ลงนามขับเคลื่อนแผน 7 ปีพัฒนาปฐมวัย ซึ่งถือเป็นการลงนามที่มีหลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ทางทีมงานครูประถมจึงไม่พลาดนำรายละเอียดมาให้ติดตามอ่านกันค่า สามารถอ่านรายละเอียดด้านล่างเลยค่า
ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการสภาการศึกษา เปิดเผยว่า การระบาดของโรคโควิด-19 รอบล่าสุดนี้ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง แต่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ยังเดินหน้าขับเคลื่อนต่อยอดพัฒนาระบบการศึกษาไทยอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด สกศ.ได้จัดทำร่างแผนพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2564 – 2570 นำเสนอ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ลงนามเห็นชอบในหลักการแล้ว ซึ่งจะได้รายงานเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาตามลำดับต่อไป โดยที่ผ่านมา สกศ.ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการขับเคลื่อนงานเด็กปฐมวัยตามพระราชบัญัติ (พ.ร.บ.) การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ.2562 ภายใต้ความร่วมมือ 4 หน่วยงานหลัก กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงมหาดไทย(มท.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผ่านกลไกขับเคลื่อนสำคัญคือคณะอนุกรรมการ ฯ ทั้ง 6 คณะ
และมีผลดำเนินงานความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องที่มีเป้าหมายร่วมกันปฏิรูปการศึกษาส่งเสริมผลักดันเต็มที่ เด็กเล็กต้องได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษา เพื่อให้เด็กเล็กได้รับการพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัยจึงต้องสร้างกลไกความร่วมมือที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น ยกระดับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีคุณภาพพัฒนากลไกการตรวจสอบที่มีคุณภาพ พิจารณานําเครื่องมือดําเนินงานใหม่ ๆ มาปรับใช้ และผลักดันให้เกิดศูนย์รับเลี้ยงเด็กอ่อนที่มีคุณภาพ
เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวอีกว่า วิสัยทัศน์ของแผนพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2564 – 2570 ซึ่งเป็นแผนระยะ 7 ปี มุ่งเน้นเด็กปฐมวัยทุกคนได้รับการพัฒนาอย่างรอบด้านเต็มตามศักยภาพ โดยมียุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อน 7 ด้าน ดังนี้
1.การจัดและการให้บริการแก่เด็กปฐมวัย
2.การพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันครอบครัวในการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย
3.การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการพัฒนาเด็กปฐมวัย
4.การพัฒนาระบบและกลไกการบูรณาการสารสนเทศเด็กปฐมวัย และการนำไปใช้ประโยชน์
5.การจัดทำและปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวกับเด็กปฐมวัยและการดำเนินการตามกฎหมาย
6.การวิจัยพัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้ และ
7.การบริหารจัดการ การสร้างกลไก การประสานการดำเนินงาน และการติดตามประเมินผล
ซึ่ง สกศ. เห็นว่าการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพประสิทธิผล ต้องพัฒนาความเข้มแข็งในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างครอบครัวคุณภาพ การยกระดับโรงเรียนพ่อแม่ และการกําหนดนโยบายที่เป็นมิตรกับครอบครัวในสถานประกอบการ
“แนวคิดสำคัญคือยกระดับแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้เป็นแผนบูรณาการทั้งด้านบริการสาธารณสุขการจัดการศึกษา การจัดสวัสดิการ และด้านการคุ้มครองสิทธิแก่เด็กปฐมวัย ต้องเร่งสร้างระบบจูงใจ ให้ท้องถิ่นพัฒนาคุณภาพสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และกระตุ้นพัฒนาการ เด็กปฐมวัย โดยใช้แผนพัฒนาเด็กปฐมวัย ฯ ฉบับนี้ไปใช้เป็นกรอบแนวทางภายใต้เป้าหมายร่วมกันทั้งระบบ” ดร.อำนาจ กล่าว
ขอขอบคุณที่มา : At_HeaR